แผนกเวชศาสตร์ชะลอวัย
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ (Regenerative Medicine) คือ ศาสตร์การรักษาโรคต่างๆ ผ่านการเข้าไปฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายโดยลงลึกไปถึงระดับเซลล์ เพื่อซ่อมแซมและสร้างพลังงานของเซลล์ในร่างกาย ให้ความเสื่อมของร่างกายได้รับการรักษาและกระตุ้นจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
- การใช้ฮอร์โมนในเวชศาสตร์ฟื้นสภาพเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนทุกชนิดภายในร่างกายให้เหมาะสมและเพียงพอ (Hormone Symphony) ผู้ป่วยแต่ละรายจะใช้ฮอร์โมนที่ต่างกันไป ตัวอย่างฮอร์โมนที่ใช้สารเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ ได้แก่ ฮอร์โมนต่อมหมวกไต ฮอร์โมนเพศ และฮอร์โมนซ่อมแซม เป็นต้น
- การใช้ฮอร์โมนรักษาความเสื่อมไม่ต่างจากการเติมสารธรรมชาติที่ผลิตโดยร่างกายอยู่แล้วเข้าไปให้เพียงพอเพื่อกระตุ้นกลไกการทำงานที่ทรุดโทรมลงให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม ต่างจากการรักษาโดยใช้ยาที่เพียงเข้าไปบรรเทาอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เบาบางลง แต่ไม่ได้บำรุงหรือซ่อมแซมอวัยวะที่ทำงานด้อยประสิทธิภาพลงให้กลับมาแข็งแรงขึ้น
- การรักษาโรคด้วยการ “ใช้ยา” อาจทำให้ผู้ป่วยโรคต่างๆ มีอาการเจ็บป่วยเบาลงได้ก็จริง แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ใช่ที่ต้นตอ อีกทั้งการรักษาโรคด้วยยาในผู้ป่วยหลายรายยังต้องใช้ระยะเวลานาน จนกว่าสารในตัวยาจะเข้าไปบำบัดรักษาอาการได้ และผู้ป่วยยังต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอไม่ให้ขาด เป็นการเปลืองค่าใช้จ่ายและอาจส่งผลลัพธ์ไม่ดีต่อสุขภาพเมื่อต้องรับประทานยาในระยะยาว
แพทย์หญิงมะลิ วิโรจน์สกุลชัย แพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การฟื้นฟู
ได้ลองปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ ใหม่ ผ่านการใช้ “เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ” ซึ่งเป็นศาสตร์การรักษาโรคที่เน้นรักษาไปยังต้นตอที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและไม่จำเป็นต้องใช้ยาแต่ยังสามารถฟื้นฟูความเสื่อมของระบบต่างๆ ในร่างกายให้หายดีได้ หลังจากประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยมาเป็นระยะเวลานานกว่ายี่สิบปี ก็ได้มีการก่อตั้งโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ โรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทยที่มีการนำแนวคิดเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ (Regenerative Medicine) เข้ามาใช้ในการรักษาผู้ป่วยร่วมกับศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบันด้วย
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพคืออะไร?
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ (Regenerative Medicine) คือ ศาสตร์การรักษาโรคต่างๆ ผ่านการเข้าไปฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายโดยลงลึกไปถึงระดับเซลล์ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการจ่ายพลังงานให้กับระบบต่างๆ ของร่างกายและเพื่อให้สุขภาพของเรายังแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายในทุกๆ วัน เพราะเมื่อไรก็ตามที่เซลล์ภายในร่างกายของเราเสื่อมตัวลงหรือไม่สมดุลขึ้นมา ระบบทุกส่วนภายในร่างกายก็จะเริ่มด้อยประสิทธิภาพในการทำงานลงไปด้วย อวัยวะต่างๆ ก็มีโอกาสเกิดความผิดปกติในการทำหน้าที่ของตนเองได้ และเกิดเป็นโรคภัยหรืออาการเจ็บป่วยตามมานั่นเอง ดังนั้นเวชศาสตร์ฟื้นสภาพจึงมีจุดมุ่งหมายหลักอยู่ที่การซ่อมแซมและสร้างพลังงานของเซลล์ในร่างกาย เพื่อให้ความเสื่อมของร่างกายได้รับการรักษาและกระตุ้นจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง จากนั้นอาการเจ็บป่วยของผู้เข้ารับบริการก็จะมีโอกาสหายดีและกลับมามีสุขภาพที่ดีได้อีกครั้ง
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพใช้อะไรในการรักษาโรค?
แพทย์หญิงมะลิกล่าวว่า “ฮอร์โมน” คือ ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นสภาพหรือรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ภายใต้เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ ร่วมกับการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์อื่นๆ เข้ามาเป็นองค์ประกอบในการรักษาด้วย โดยการใช้ฮอร์โมนเข้ามาบำบัดความเสื่อมของร่างกายมีอยู่ 3 จุดมุ่งหมายหลักๆ ได้แก่
- ซ่อมแซมความผิดปกติของระบบต่างๆ ที่อาจเกิดจากการเสื่อมตัวของเซลล์เล็กๆ ภายในร่างกาย
- ปรับการทำหน้าที่ต่างๆ ของทุกระบบในร่างกาย (Function) ให้กลับมาทำงานอย่างสมดุล ไม่กลับไปเสื่อมตัวอีกจนเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปวดศีรษะ หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ปวดเมื่อยตามตัว
- เพื่อยืดชีวิตผู้เข้ารับบริการทุกคนให้กลับมาเป็นคนที่อายุยืนและมีสุขภาพแข็งแรงตั้งแต่ระบบภายในอีกครั้ง
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพใช้รักษาเพียงผู้สูงอายุจริงหรือไม่?
ไม่จริง เพราะถึงแม้ว่าชื่อ “เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ” อาจฟังดูเหมือนการซ่อมความเสื่อมของร่างกายที่น่าจะเกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เวชศาสตร์ฟื้นสภาพสามารถรักษาผู้ป่วยได้ทุกช่วงวัย แพทย์หญิงมะลิอธิบายว่า ร่างกายของคนเรามีกลไกการซ่อมแซมตนเองตลอดชีวิต แต่เมื่อเราอายุได้ 25 ปี ก็จะถึงช่วงวัยที่ฮอร์โมนในร่างกายทำงานอยู่ในจุดสูงสุด และหลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ลดระดับประสิทธิภาพการทำงานลงอย่างช้าๆ จนเกิดเป็นความเสื่อมภายในที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ดังนั้นการที่เรามีอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้น รวมถึงเป็นโรคต่างๆ ก็ล้วนเกิดจากความเสื่อมโทรมของระบบภายในร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องรอถึงวัยสูงอายุเสมอไป เพียงแต่ถ้าไม่ตรวจอย่างละเอียดกับแพทย์ เราก็จะไม่รู้ความเสื่อมเหล่านี้
การใช้ฮอร์โมนในการรักษาดีกว่าการรักษาด้วยยาอย่างไร?
ฮอร์โมนเป็นสารที่เกิดจากต่อมไร้ท่อในร่างกายของเรา ก่อนจะไหลเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อให้ทุกระบบของร่างกาย รวมถึงระบบประสาท พัฒนาการกับสติปัญญา ภาวะอารมณ์ของเรา ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกเป็นไปอย่างสมดุลทุกวัน ดังนั้นการใช้ฮอร์โมนเข้ามารักษาความเสื่อมจึงไม่ต่างจากการเติมสารธรรมชาติที่ผลิตโดยร่างกายอยู่แล้วเข้าไปให้เพียงพออีกครั้ง เพื่อกระตุ้นกลไกการทำงานที่ทรุดโทรมลงให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม ต่างจากการรักษาโดยใช้ยาที่ไม่ได้เข้าไปฟื้นฟูความเสื่อมใดๆ ของร่างกาย แต่เพียงเข้าไปบรรเทาอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เบาบางลงเท่านั้น รวมถึงไม่ได้ช่วยบำรุงหรือซ่อมแซมอวัยวะที่ทำงานด้อยประสิทธิภาพลงให้กลับมาแข็งแรงขึ้นแต่อย่างใด แพทย์หญิงมะลิได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น การทำบอลลูนให้กับผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจขาดเลือด ซึ่งบอลลูนจะเข้าไปช่วยให้เลือดไหลเวียนได้อย่างสะดวกขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ตัวหลอดเลือดที่ทำให้คนไข้เกิดภาวะนี้ก็ยังเสื่อมตัวอยู่เหมือนเดิม และอาจทำให้ผู้ป่วยต้องกลับมาพบแพทย์หรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่เป็นอันตรายได้อีกครั้ง ก็เหมือนกับการใช้ยารักษาโรคซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น เมื่อรักษาแล้วเหมือนจะหายดี แต่ความจริงแล้วไม่ได้รักษาที่ต้นตอของโรค ซึ่งในส่วนนี้ต่างหากที่จะทำให้ผู้ป่วยกลับมาร่างกายแข็งแรงได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องกลับมารักษาโรคซ้ำอีกหลายครั้งจนเสียกำลังใจ
ตัวอย่างฮอร์โมนที่ใช้ในการรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
การใช้ฮอร์โมนในเวชศาสตร์ฟื้นสภาพมีจุดมุ่งหมายหลัก คือ เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนทุกชนิดภายในร่างกายให้เหมาะสมและเพียงพออีกครั้ง (Hormone Symphony) ดังนั้นการรักษาโรคหรือภาวะความผิดปกติต่างๆ ของผู้ป่วยแต่ละรายจะใช้ฮอร์โมนที่ต่างชนิดกันไป รวมถึงใช้ในปริมาณที่ไม่เท่ากันด้วย แต่แพทย์หญิงมะลิก็ได้เน้นย้ำด้วยว่า จะไม่มีการใช้ฮอร์โมนประเภทใดประเภทหนึ่งในปริมาณมากหรือในระยะยาวนานเกินไป สำหรับตัวอย่างสารฮอร์โมนที่ใช้สารเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ จะได้แก่
- ฮอร์โมนต่อมหมวกไต
- ฮอร์โมเพศ ได้แก่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในผู้ชายและฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในผู้หญิง
- โกรทฮอร์โมนหรือฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone)
- โรคที่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
- โรคเรื้อรังหลายชนิดสามารถรักษาให้หายได้ ผ่านการใช้เวชศาสตร์ฟื้นสภาพเข้ามาร่วมในแผนการรักษา เช่น
- โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM)
- โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- โรคหัวใจ (Heart Disease)
- โรคไต (Chronic kidney Disease)
- โรคกระดูกพรุนหรือโรคข้อเสื่อม (Osteoporosis)
- โรคอ้วน (Obesity)
- โรคมะเร็ง (Cancer)
- โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction)
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจากการใช้ฮอร์โมนแบบผิดๆ จนสารฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล
ตัวอย่างฮอร์โมนที่ใช้ในการรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
การใช้ฮอร์โมนในเวชศาสตร์ฟื้นสภาพมีจุดมุ่งหมายหลัก คือ เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนทุกชนิดภายในร่างกายให้เหมาะสมและเพียงพออีกครั้ง (Hormone Symphony) ดังนั้นการรักษาโรคหรือภาวะความผิดปกติต่างๆ ของผู้ป่วยแต่ละรายจะใช้ฮอร์โมนที่ต่างชนิดกันไป รวมถึงใช้ในปริมาณที่ไม่เท่ากันด้วย แต่แพทย์หญิงมะลิก็ได้เน้นย้ำด้วยว่า จะไม่มีการใช้ฮอร์โมนประเภทใดประเภทหนึ่งในปริมาณมากหรือในระยะยาวนานเกินไป สำหรับตัวอย่างสารฮอร์โมนที่ใช้สารเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ จะได้แก่
- ฮอร์โมนต่อมหมวกไต
- ฮอร์โมเพศ ได้แก่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในผู้ชายและฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในผู้หญิง
- โกรทฮอร์โมนหรือฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone)
- โรคที่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
- โรคเรื้อรังหลายชนิดสามารถรักษาให้หายได้ ผ่านการใช้เวชศาสตร์ฟื้นสภาพเข้ามาร่วมในแผนการรักษา เช่น
- โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM)
- โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- โรคหัวใจ (Heart Disease)
- โรคไต (Chronic kidney Disease)
- โรคกระดูกพรุนหรือโรคข้อเสื่อม (Osteoporosis)
- โรคอ้วน (Obesity)
- โรคมะเร็ง (Cancer)
- โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction)
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจากการใช้ฮอร์โมนแบบผิดๆ จนสารฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล
ขั้นตอนการรักษาโรคเรื้อรังผ่านการใช้เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
ลำดับในการเริ่มฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายและรักษาโรคด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพจะมีดังต่อไปนี้
- ตรวจคัดกรองสุขภาพทั่วไป เพื่อเช็กความเสื่อมและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้
- หากร่างกายของผู้เข้ารับบริการไม่ได้มีความเสื่อมใดๆ หรือยังอยู่ในภาวะสุขภาพที่ดี แพทย์จะแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันดูก่อน และยังไม่ต้องรับการรักษาในเบื้องต้น
- หากร่างกายของผู้เข้ารับบริการมีความเสื่อมหรือมีโรคเรื้อรัง แพทย์จะเริ่มตรวจระดับฮอร์โมนทั้งหมด และซักประวัติสุขภาพเพิ่มเติมอีกครั้ง
- แพทย์นำข้อมูลสุขภาพของผู้เข้ารับบริการมาออกแบบแผนการปรับฮอร์โมนแบบธรรมชาติ (Bioidentical Hormone) เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยหรือโรคที่เกิดขึ้นต่อไป
ระยะเวลาในการรักษาโรคด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
ระยะเวลาในการรักษาโรคหรืออาการผิดปกติด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- สุขภาพพื้นฐานของผู้เข้ารับบริการ
- อายุ
- ความรุนแรงของอาการ หรือสมดุลของฮอร์โมนที่ผิดปกติไป
ผู้เข้ารับบริการบางรายที่รับการรักษาแล้ว อาจหายดีขึ้นจากอาการทุกอย่างภายใน 1-6 เดือน หรือในบางรายก็อาจรักษานานจนกินเวลาถึงหลักปี หากเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายนาน
รักษาโรคเรื้อรังด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ ที่ โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ
การใช้ฮอร์โมนเข้ามารักษาโรคทุกชนิดจะต้องได้รับการวางแผนการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งที่โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นสภาพคอยต้อนรับและบริการดูแลสุขภาพของผู้เข้ารับบริการทุกท่านอย่างเป็นมาตรฐาน ผ่านประสบการณ์บำบัดรักษาโรคต่างๆ มานานกว่ายี่สิบปี ไม่ใช่เพียงในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ เท่านั้นที่สามารถมารับบริการรักษาได้ แต่ผู้ที่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ก็สามารถมารับบริการรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพได้เช่นกัน เช่น
- ลดน้ำหนักไม่สำเร็จเสียที
- อยากเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธี
- มีอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น นอนไม่หลับ ปวดเมื่อยตามตัว รู้สึกเฉื่อยชาหรือซึมเศร้า
- เคยใช้ฮอร์โมนในการดูแลตนเองมาก่อนอย่างผิดวิธี
วิธีการใช้ฮอร์โมนในการรักษาโรคของโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิเป็นการใช้ฮอร์โมนแบบธรรมชาติ (Human Hormone หรือ Bioidentical Hormone) ซึ่งไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพในระยะยาว ทั้งยังสามารถใช้ฟื้นฟูร่างกายได้ไปตลอดชีวิต โดยจะมีแพทย์คอยเป็นผู้จัดสรรปริมาณฮอร์โมนชนิดต่างๆ ให้อย่างเหมาะสม เพราะการฟื้นฟูและซ่อมแซมในส่วนของต้นตอที่ทำให้เกิดโรค จะทำให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านหายดีจากทุกโรคภัยได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องกลับไปพบแพทย์ซ้ำๆ จนสิ้นเปลืองเงินและท้อแท้ใจ
โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิจึงมีความภาคภูมิใจที่จะเป็น “ช่างซ่อมผู้ชำนาญการ” ในการเข้าซ่อมแซมและเปลี่ยนแปลงความเสื่อมทุกส่วนของร่างกายของผู้เข้ารับบริการทุกท่านให้กลับมาสมดุลแข็งแรงได้อีกครั้ง หากคุณยังมองหาแพทย์ที่จะมาช่วยปรับปรุงระบบที่เสื่อมถอยของร่างกายตนเองไม่เจอ หรือมีอาการเจ็บป่วยหลายอย่างที่ยังหาทางออกในการรักษาไม่ได้ ขอแนะนำให้คุณลองรับบริการรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพจากโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ หรือลองรับคำปรึกษาเบื้องต้น เพื่อที่คุณจะได้พบกับทางเลือกใหม่ในการรักษาตั้งแต่ต้นตอของทุกโรค
นอกจากนี้โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิยังอยากเป็น “ผู้ช่วยย้อนเวลา” ให้กับสุขภาพของผู้สูงอายุทุกท่านที่อยากย้อนความแข็งแรงแทนที่ความเสื่อมของร่างกายที่อาจเพิ่มมากขึ้นทุกทีในปัจจุบัน ให้ผู้สูงอายุทุกท่านกลับมามีความกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นขึ้นอีกครั้ง ผ่านการใช้ฮอร์โมนและศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบันในการฟื้นฟูสุขภาพองค์รวม